กุลนรี นุกิจรังสรรค์ ศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ
ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2024 ที่ผ่านมา มีการเผยแพร่ภาพป้ายโฆษณาภาษาจีนที่ติดตั้งกลางสี่แยกห้วยขวางบนโลกอินเตอร์เน็ต จนกลายเป็นประเด็นระดับชาติที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์และหลายฝ่ายให้ความสนใจ กระทั่งสำนักงานเขตห้วยขวางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการสั่งปลดป้ายและตรวจสอบป้ายโฆษณาดังกล่าวทันที กรณีนี้ถือเป็นเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจและสร้างความกังวลใจต่อคนไทยเป็นอย่างมาก เพราะมีความเกี่ยวข้องกับการรุกคืบของคนจีนที่เข้ามาอยู่อาศัยในไทยและเรื่องสัญชาติ ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวทำให้คนไทยอดคิดไม่ได้ว่าจะมีการลักลอบซื้อสัญชาติไทยหรือไม่ บทความนี้จะบอกเล่าเรื่องราวว่าการซื้อพาสปอร์ตและสัญชาตินั้นมีจริงหรือไม่ เหตุใดคนจีนถึงต้องการซื้อพาสปอร์ตและสัญชาติ และสุดท้ายเราเห็นอะไรเพิ่มขึ้นจากข่าวนี้บ้าง
1.ซื้อขายพาสปอร์ตหรือสัญชาติตามที่ปรากฎบนป้ายโฆษณาผิดหรือไม่?
จากกรณีป้ายโฆษณาภาษาจีนที่สี่แยกห้วยขวางที่มีเนื้อหาโปรยแปลเป็นใจความว่า “ซื้อพาสปอร์ตอพยพด่วน ได้รับสัญชาติถูกกฎหมาย 100% ภายใน 30 วัน ปลอดภัย เป็นความลับ ทำก่อนจ่ายทีหลัง….” เรียกความสนใจจากสังคมไทยเป็นอย่างมากและสร้างความร้อนๆ หนาวๆ ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่น้อย เพราะเรื่องราวและภาพดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่บนโลกโซเซียลอย่างรวดเร็วและถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง หากว่าตามกฎหมายแล้วกรณีป้ายดังกล่าวอาจมีความผิดเรื่องการขออนุญาตติดตั้งป้าย ผิดพรบ.ป้าย หรือผิดเรื่องการจ่ายภาษีป้าย ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบอีกครั้ง แต่ในเบื้องต้นหญิงชาวจีนที่ดำเนินการเช่าและจัดทำป้ายนั้นถูกปรับเป็นเงินประมาณ 5,000 บาท ในความผิดไม่มีใบอนุญาตทำงาน แต่หากกล่าวถึงความผิดจากการให้บริการซื้อขายพาสปอร์ตหรือการซื้อสัญชาตินั้น ส่วนนี้อาจจะไม่ได้ผิดกฎหมายของไทย เพราะเนื้อหาในโฆษณาดังกล่าวไม่ได้ระบุถึงประเทศไทยหรือมีการซื้อขายสัญชาติหรือพาสปอร์ตไทย และเป้าหมายกลุ่มลูกค้าที่ให้บริการก็ไม่ใช่คนไทย
2. มองความเป็นไปได้ของการซื้อพาสปอร์ตและสัญชาติ
การซื้อขายพาสปอร์ตหรือสัญชาติอาจทำได้จริงโดยมีบุคคลหรือบริษัทรับดำเนินการแทน ซึ่งบุคคลหรือบริษัทเหล่ามักมักจะเป็นนายหน้าหรือเอเจนซี่ที่ให้บริการด้านการทำวีซ่าและการย้ายถิ่น โดยทั่วไปแล้วประเทศปลายทางที่จะรับโอนสัญชาติหรือออกพาสปอร์ตให้ได้นั้นจะเป็นประเทศที่เปิดช่องให้คนต่างชาติสามารถโอนย้ายสัญชาติเข้าได้อยู่แล้วภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด เช่น ต้องบริจาคเงินเข้าประเทศ ต้องนำเงินมาลงทุน ฯลฯ ซึ่งเงื่อนไขต่างๆ เหล่านั้นเป็นรายละเอียดที่นายหน้าไม่ได้นำมาใส่ไว้ในป้ายโฆษณา แต่กลับใส่คำอื่นที่ดึงดูดใจกว่าแทน เช่น ซื้อพาสปอร์ตด่วน ได้สัญชาติถูกกฎหมาย มีการระบุจำนวนเงินที่ดูไม่เยอะ เพื่อให้ฟังดูเป็นเรื่องง่ายๆ ล่อใจให้คนติดต่อสอบถามเข้ามา แต่ในความเป็นจริงอาจจะไม่ได้ดำเนินการง่ายขนาดนั้น หรืออาจไม่ได้มีค่าใช้จ่ายแค่ตามที่โฆษณา ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้ผิดกฎหมายในไทยแต่อย่างใด
ทั้งนี้ การซื้อสัญชาติดังที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ในหลายประเทศ ทั้งประเทศขนาดใหญ่และประเทศขนาดเล็ก ซึ่งการที่ประเทศเหล่านั้นเปิดช่องให้สิทธิคนต่างชาติถือสัญชาตินั้นๆ ได้ อาจมีหลายเหตุผล เช่น ประเทศนั้นขาดแคลนพลเมือง ขาดแคลนแรงงาน ขาดแคลนการลงทุน เป็นต้น อย่างไรก็ดี การเปิดช่องให้คนต่างชาติได้รับสัญชาติของประเทศต่างๆ ถือเป็นสิทธิประโยชน์เสริมจากการที่คนต่างชาติเข้าไปเป็นแรงงาน พลเมือง หรือเข้าไปลงทุน ดังนั้น การขอสัญชาติที่สอง การโอนย้าย หรือเปลี่ยนสัญชาติจึงเป็นเรื่องที่ทำได้ตามเงื่อนไขและกฎหมายของประเทศปลายทาง คนบางส่วนต้องการสัญชาติใหม่จึงมีการนำเงินเข้าไปลงทุน หรือดำเนินงานการตามเงื่อนไขต่างๆ จึงเกิดคำว่า “ซื้อสัญชาติ” ขึ้น ซึ่งแท้จริงแล้วการซื้อสัญชาติโดยตรงไม่อาจทำได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือการใช้เงินช่วยจัดการให้คุณสมบัติของบุคคลนั้นเข้าเงื่อนไขที่กฎหมายเปิดช่องไว้มากกว่า
อย่างไรก็ดี การโอนย้ายสัญชาติในหลายประเทศส่วนใหญ่กระทำได้ไม่ง่าย โดยเฉพาะการนำเงินเข้าไปลงทุนเพื่อให้ได้สัญชาตินั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่โฆษณากัน หลายประเทศโดยเฉพาะในประเทศใหญ่ที่มีรัฐสวัสดิการดี เช่น แคนาดา อังกฤษ อเมริกา ฯลฯ มีนโยบายให้สัญชาติแก่ชาวต่างชาติ แต่ก็มีเงื่อนไขอื่นประกอบด้วย เช่น ต้องพูดภาษาของประเทศนั้นได้หรือมีผลการสอบวัดระดับภาษายื่นด้วย ต้องพำนักในประเทศนั้นๆ เป็นเวลาไม่ต่ำกว่ากี่ปี ต้องมีการศึกษาและประสบการณ์ทำงานตามเงื่อนไข ต้องมีการสอบวัดระดับความรู้ด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เป็นต้น มิใช่ว่าใครมีเงินแล้วจะกำเงินไปลงทุนเพื่อแลกสัญชาติได้เลย
สำหรับประเทศไทยแล้ว
ไทยยังไม่ใช่ประเทศที่เปิดรับผู้อพยพ
และยังไม่มีกฎหมายที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติถือสัญชาติไทยผ่านการนำเงินเข้ามาลงทุนได้
การที่บุคคลต่างชาติทั่วไปต้องการเปลี่ยนเป็นสัญชาติไทยนั้นมีหลักเกณฑ์สำคัญตาม พ.ร.บ.สัญชาติ
พ.ศ.2508 มาตรา 10 คือ บุคคลนั้นจะต้องมีอายุมากกว่า 20 ปี
มีอาชีพและมีการเสียภาษี มีการพำนักอยู่ไทยต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี
มีความรู้ภาษาไทย และมีรายได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด
แต่ทว่าถึงแม้ชาวต่างชาติจะมีคุณสมบัติครบและตรงตามเงื่อนไขทุกอย่างก็ใช่ว่าจะได้รับสัญชาติไทยได้โดยง่าย
การขอสัญชาติไทยสำหรับชาวต่างชาติยังต้องมีเอกสารประกอบอีกจำนวนมาก
และต้องมีการพิจารณาและสัมภาษณ์จากคณะกรรมการกลั่นกรองอีกหลายขั้นตอน
ที่ผ่านมามีข่าวการได้รับสัญชาติไทยของชาวจีนปรากฎอยู่บ้าง
บางส่วนซึ่งน่าจะเป็นส่วนน้อยน่าจะได้รับสัญชาติอย่างถูกกฎหมาย
แต่บางส่วนอีกไม่น้อยน่าจะได้มาโดยมิชอบ เช่น
การจ่ายเงินสินบนเพื่อสวมบัตรประชาชนผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว การใช้เส้นสายจากกลุ่มผู้มีอิทธิพล
เป็นต้น
ดังนั้น
สรุปแล้วการซื้อขายพาสปอร์ตและสัญชาติเป็นบริการของนายหน้าหรือเอเจนซี่ที่ให้บริการด้านวีซ่าและการย้ายถิ่นที่สามารถทำได้ภายใต้กฎหมายของประเทศนั้นๆ
แต่การซื้อขายพาสปอร์ตและสัญชาติไทยนั้นไม่สามารถกระทำได้ ซึ่งการมีอยู่ของนายหน้าหรือเอเจนซี่ที่ให้บริการด้านวีซ่าและการย้ายถิ่น
ถือเป็นธุรกิจบริการที่สามารถทำได้ ในไทยเองหากลองเสิร์ชอินเตอร์เน็ตดูจะมีเว็บไซต์นายหน้าหรือเอเจนซี่ให้บริการการโอนย้ายสัญชาติและรับทำวีซ่าถาวรในต่างประเทศปรากฏขึ้นอยู่บ้าง
3. การซื้อพาสปอร์ตและสัญชาติในข่าวแท้จริงแล้วคืออะไร?
การซื้อพาสปอร์ตและสัญชาติในข่าวที่ปรากฏ
สามารถวิเคราะห์ความเป็นไปได้ได้ 3 กรณี คือ
ความเป็นไปได้ที่ 1 หากพยายามมองในแง่ดีป้ายโฆษณานี้อาจเป็นป้ายของนายหน้าที่รับดำเนินการเรื่องวีซ่าและการย้ายถิ่นที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายของประเทศปลายทาง ซึ่งก็มีความเป็นไปได้และเป็นเรื่องที่ดำเนินการได้ ไม่ได้ผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่ก็มีข้อสังเกตว่า (1) เมื่อนำชื่อบริษัทซึ่งก็คือ ซินซื่อเจี้ยะอี๋หมินกรุ๊ป (แปลได้ว่า New World Immigration Group) และชื่อประธานบริษัท นายเฉิน ต้าฟา (Chen Dafa) ไปค้นหาบนอินเตอร์เน็ตทั้งเป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษกลับไม่พบข้อมูลใดๆ (2) ขณะเดียวกันรูปถ่ายของนายเฉิน ต้าฟา บนป้ายโฆษณาก็ดูเนี้ยบและหมดจดเกินกว่าธรรมชาติของคนจีนทั่วไป มีโอกาสที่บุคคลนี้จะไม่มีตัวตนจริงๆ (3) หลังเป็นข่าว ตำรวจไม่สามารถสืบหาคนว่าจ้างขึ้นป้ายตัวจริงได้ หญิงชาวจีนที่จับกุมได้อ้างว่าเป็นแค่ตัวกลางในการประสานงานที่ถูกว่าจ้างมาอีกทีเท่านั้น และตัดบทการให้ข้อมูลว่าติดต่อกับผู้ว่าจ้างไม่ได้แล้ว ไม่รู้จักและไม่มีข้อมูลอื่นๆ เลย ซึ่งการให้การดังกล่าวไม่น่าเชื่อถืออย่างยิ่ง หญิงชาวจีนคนดังกล่าวอาจเป็นเพียงตัวละครที่มารับบท “แพะ” เพื่อให้เรื่องจบหรือไม่ และ (5) เนื้อหาบนป้ายระบุว่าดำเนินการเสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งรวดเร็วจนน่าแปลกใจ ป้ายโฆษณานี้จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นการหลอกลวง หรือมีลับลมคมในบางอย่าง โอกาสที่จะดำเนินการได้จริงหรือโอกาสที่จะเป็นนายหน้าตัวจริงจึงมีน้อยมาก
ความเป็นไปได้ที่ 2 อาจเป็นการโฆษณาของพวกธุรกิจมืดที่รับดำเนินการเรื่องการเปลี่ยนสัญชาติหรือสวมสัญชาติให้กับคนจีน แต่ใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น ใช้วิธีสวมสิทธิ์โดยดำเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ ทำเอกสารปลอมหรือพาสปอร์ตปลอม เป็นต้น ซึ่งจริงๆ แล้ววิธีนี้มีความเป็นไปได้น้อย เพราะว่าการปลอมเอกสารหรือการสวมสิทธิ์นั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ และธุรกิจมืดพวกนี้มีกลุ่มลูกค้าที่รู้กัน ไม่จำเป็นต้องโฆษณาโจ่งแจ้ง และประเจิดประเจ้อขนาดนี้ แต่ถึงแม้จะเป็นไปได้น้อยแต่ก็อาจมีความเชื่อมโยงและอาจเป็นไปได้ตรงที่หลังจากที่ตำรวจจับกุมหญิงชาวจีนที่ประสานงานขึ้นป้ายได้ เมื่อขยายผลไปถึงสามีของหญิงชาวจีนผู้นี้ก็พบว่าสามีของเธอนั้นมีหมายจับติดตัวมาจากประเทศจีนในคดีประเภทการซื้อขายบัตรประจำตัว และกำลังจะเดินทางออกนอกประเทศก่อนที่จะถูกจับได้ด้วย เช่นนี้จึงหมายความว่าสามีภรรยาชาวจีนคู่นี้ “ไม่ธรรมดา” การเข้ามาอยู่ไทยน่าจะไม่ได้มาเพื่อประกอบอาชีพสุจริต น่าจะเกี่ยวข้องและวนเวียนอยู่กับเรื่องสีเทาในไทยและจีน
ความเป็นไปได้ที่ 3 ป้ายโฆษณานี้อาจเป็นของแก๊งมิจฉาชีพจีนที่ต้มตุ๋นหลอกลวงคนจีนด้วยกัน กล่าวคือไม่สามารถดำเนินการได้จริง ไม่มีบริษัทอยู่จริง หรือไม่ได้มีบริการดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ทั้งหมดเป็นแค่การอุปโลกน์ขึ้นมา อาจเริ่มจากการขายฝัน ให้ความหวังว่าซื้อสัญชาติได้ ทำง่าย ไม่แพง ทำแล้วจะได้ประโยชน์คุ้มค่า ฯลฯ จนสุดท้ายเหยื่อหลงเชื่อ มีการเรียกเก็บเงิน วางมัดจำแล้วจึงถูกบล็อคติดต่อไม่ได้อีก หรือการหลอกเอาเอกสารข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อไปหลอกลวงอื่นๆ ในภายหลัง เป็นต้น ซึ่งก็กรณีนี้ก็มีโอกาสที่จะเป็นไปได้สูง เพราะการขึ้นป้ายเช่นนี้เจาะจงเน้นให้คนจีนในย่านนั้นเห็น ทั้งๆ ที่ช่องทางโฆษณาอื่นๆ ที่น่าจะเข้าถึงคนจีนวงกว้างกว่านี้ก็มี เช่น วีแชตกลุ่ม (Wechat) หรืออินเตอร์เน็ต แต่กลับเลือกใช้การขึ้นป้ายโฆษณาแทน อีกทั้งการใช้ถ้อยคำบนป้ายก็ดึงดูดความสนใจหลอกล่อให้คนติดต่อสอบถามเข้าไป เมื่อมีการพูดคุยกันไปมาจึงถูกชักชวนโน้มน้าวและโดนหลอกในที่สุด ซึ่งคนจีนในย่านสี่แยกห้วยขวางนั้นเป็นคนจีนชั้นกลาง ธุรกิจของคนจีนย่านนั้นมักเป็นกิจการขนาดเล็ก ไม่ใช่กลุ่มคนจีนที่เป็นนักลงทุนรายใหญ่ บางส่วนไม่ได้มีการศึกษาสูง โอกาสที่จะโดนหลอกจึงมีมากกว่า
4. หรือการซื้อพาสปอร์ตและสัญชาติอาจเป็นเพียงกับดักรอคนจีนมาติดกับ?
ในจำนวนคนจีนรุ่นใหม่ที่อพยพมาไทย
ถึงแม้จำนวนมากมาทำธุรกิจหรือการค้าแล้วประสบความสำเร็จ ร่ำรวยเป็นเถ้าแก่ แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาแล้วล้มเหลว
บางส่วนมาทำธุรกิจแล้วไปไม่รอดก็เอาธุรกิจของตนไปหลอกขายคนจีนในจีนที่อยากออกมาร่ำรวยนอกประเทศ
อ้างว่ากิจการดีแต่ไม่มีเวลาดูแลบ้าง
อ้างว่าต้องการเปลี่ยนไปทำธุรกิจอย่างอื่นบ้าง อ้างว่าต้องการอพยพกลับจีนบ้าง
อ้างว่าร่ำรวยจนเพียงพอแล้วต้องการพักบ้าง สารพัดเหตุผลที่จะหลอกขายเพื่อนร่วมชาติเพื่อเอาทุนคืน
ขณะที่ข้อเท็จจริงอีกประการหนึ่งที่คนไทยไม่ค่อยรู้ก็คือ คนจีนที่ “ไม่เอาไหน”
ก็มีอยู่จำนวนมาก เช่น กลุ่มที่เรียนไม่เก่ง สมองทึบ ทำการค้าไม่เป็น
โลกแคบขาดวิสัยทัศน์ เมื่อเห็นคนอื่นมาทำธุรกิจแล้วรวยก็อยากทำบ้าง หรือกลุ่มพวกลูกคุณหนูที่รักสบาย
ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แต่อยากเป็นเจ้าของกิจการ พวกนี้เมื่อมาลงทุนในไทยมักมีแค่เงินทุน
และใช้วิธีการซื้อกิจการต่อจากคนที่ทำไว้แล้ว แต่ขาดความรู้ความถนัดในธุรกิจที่ทำ ขาดความพยายามหรือความอดทน
รวมถึงขาดเครือข่ายที่จะคอยช่วยเหลือ จึงถูกคนจีนด้วยกันหลอก
ซึ่งเรื่องคนจีนหลอกคนจีนด้วยกันในไทยนั้นมีปรากฏมากมายหลายรูปแบบ
แต่ไม่ได้เป็นเรื่องเป็นราวและเป็นที่รับรู้ของคนไทย
เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วคนจีนเมื่อถูกคนจีนด้วยกันหลอกแล้วก็มักทำอะไรไม่ได้
เอาผิดอะไรไม่ได้ ทำได้แค่เดินทางกลับประเทศไปเท่านั้น
ส่วนพวกที่หลอกลวงต้มตุ๋นก็ปักหลักหลอกลวงคนจีนในไทยต่อไปได้เรื่อยๆ
การมาแสวงโชคเมืองไทยบางครั้งจึงเป็นดั่งคำพูดที่ว่า “คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า”
ทั้งนี้ จากกรณีป้ายการซื้อขายพาสปอร์ตและสัญชาติ เป็นการยากที่ทราบได้ว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่อยู่ภายใต้การโฆษณานั้นคืออะไร แต่ก็มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ไม่โปร่งใสและมีการวางแผนมาเป็นอย่างดีแล้ว เพราะเนื้อหาบนป้ายน่าจะถูกคิดมาว่าแล้วไม่มีส่วนใดผิดกฎหมายของไทยเลย ประเทศที่ซื้อขายพาสปอร์ตที่ระบุไว้บนป้ายก็เป็นประเทศที่สามารถซื้อขายพาสปอร์ตได้จริง การสาวถึงต้นตอของการจ้างโฆษณาก็ทำไม่ได้ สุดท้ายแล้วเอาผิดหรือขยายผลไปสู่เรื่องอะไรไม่ได้เลย เป็นไปได้ว่าขบวนการที่อยู่เบื้องหลังอาจเกี่ยวพันกับบุคคลที่มีอิทธิพลทั้งที่เป็นคนจีนและคนไทยเรื่องจึงเงียบไป
5. ทำไมคนจีนต้องการซื้อสัญชาติ?
ตามกฎหมายของประเทศจีน
พลเมืองจีนไม่สามารถถือ 2 สัญชาติได้ ดังนั้น
หากคนจีนต้องการถือสัญชาติอื่นต้องสละสัญชาติจีนเท่านั้น เช่นนี้จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าเหตุใดคนจีนจำนวนมากจึงเลือกสละสัญชาติจีน
ทั้งที่ประเทศจีนก็เป็นประเทศที่มีความชาตินิยมและปลูกฝังความเป็นชาตินิยมให้แก่ประชาชนมาตลอด
ขณะเดียวกันจากข่าวที่ปราฎก็มีชาวจีนบางรายถือ 2 พาสปอร์ต
ก็เป็นที่น่าสงสัยเช่นเดียวกันว่าชาวจีนเหล่านั้นทำได้อย่างไร ผู้เขียนคาดเดาว่าชาวจีนที่ถือ
2 พาสปอร์ตนั้นน่าจะมีสัญชาติจีนเพียงสัญชาติเดียว แต่มีพาสปอร์ตของสองประเทศได้จากการเข้าไปลงทุนในอีกประเทศหนึ่ง
หรืออาจใช้วิธีที่ไม่สุจริตในการได้มาของพาสปอร์ตอีกประเทศหนึ่งมากกว่า
แต่เหตุใดคนจีนจึงต้องการมีพาสปอร์ตของประเทศอื่น
ผู้เขียนชวนผู้อ่านลองคิดดูเล่นๆ น่าจะมีเหตุผลหลายประการ อาทิ
พาสปอร์ตเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลในโลกยุคโลกาภิวัตน์
พาสปอร์ตของแต่ละประเทศสามารถเดินทางเข้าออกประเทศหรือเขตปกครองต่างๆ
ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้ไม่เหมือนกัน
การเดินทางโดยไม่ต้องใช่วีซ่าทำให้การเดินทางสะดวก รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย
ที่สำคัญไม่ต้องแสดงวัตถุประสงค์ในการเดินทางเข้าประเทศ
ขณะเดียวกันการถือพาสปอร์ตของบางประเทศจะทำให้การถูกเพ่งเล็งหรือความเข้มงวดในการคัดกรองในการเข้าประเทศต่างกัน
การมี 2 พาสปอร์ตจึงมีส่วนช่วยเพิ่มความสะดวกทั้งต่อการเดินทางท่องเที่ยว
การประกอบธุรกิจ หรือการเดินทางด้วยวัตถุประสงค์อื่นๆ
จากข้อมูลปี 2024 พบว่าพาสปอร์ตที่มีอิทธิพลสุด
สามารถเดินทางเข้าออกได้ถึง 194 ประเทศหรือเขตปกครองโดยไม่ต้องใช้วีซ่า เช่น
ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสเปน
ส่วนประเทศไทยนั้นทรงอิทธิพลลำดับที่ 63 สามารถเดินทางได้ 82 ประเทศหรือเขตปกครอง
ส่วนประเทศที่โฆษณาในป้ายที่สี่แยกห้วยขวาง ได้แก่ อินโดนีเซียสามารถเดินทางได้ 78
ประเทศ กัมพูชาสามารถเดินทางได้ 56 ประเทศ วาตูอานูสามารถเดินทางได้ 129 ประเทศ
และตุรกีสามารถเดินทางได้ 110 ประเทศ
ขณะที่พาสปอร์ตจีน จีนได้ลงนามข้อตกลงยกเว้นวีซ่าที่ครอบคลุมหนังสือเดินทางประเภทต่างๆร่วมกับ 157 ประเทศ บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการลดขั้นตอนการขอวีซ่ากับ 44 ประเทศ ตลอดจนร่วมกันยกเว้นวีซ่าทุกประเภทกับ 22 ประเทศ รวมถึงสิงคโปร์ มัลดีฟ คาซัคสถาน และอื่นๆ นอกจากนี้กว่า 60 ประเทศและเขตปกครองใช้นโยบายปลอดวีซ่าหรือให้วีซ่าที่หน้าด่าน (Visa on Arrival: VOA) สำหรับพลเมืองจีน (ข้อมูลจาก China Radio International, 2024)
ต้องการเป็นพลเมืองของประเทศนั้น คนจีนบางส่วนเมื่ออพยพไปตั้งรกรากยังต่างประเทศแล้ว ถึงแม้ภายในใจยังมีความรักชาติ ภูมิใจในความเป็นจีนและความรุ่งเรืองของจีน แต่ก็มิอาจที่จะกลับไปใช้ชีวิตในจีนได้อีก ด้วยข้อจำกัดที่จากประเทศจีนมานานจนไม่สามารถที่จะปรับตัวให้เข้ากับสังคมจีนที่เปลี่ยนแปลงไปได้ อีกทั้งยังมีธุรกิจและทรัพย์สินในต่างประเทศที่ไม่สามารถทิ้งและกลับไปหาใหม่ในประเทศจีนได้ นอกจากนี้ อาจมีบางส่วนที่พึงพอใจกับวิถีชีวิตในประเทศปลายทาง ต้องการหลีกหนีความเป็นจีน และไม่ประสงค์ที่จะกลับไปใช้ชีวิตในจีนอีก จึงเลือกตั้งรกรากอยู่ในประเทศนั้นอย่างถาวร เช่นนี้จึงมีความประสงค์จะเปลี่ยนสัญชาติ เพื่อให้ได้รับสิทธิ สวัสดิการ และสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นเทียบเท่าพลเมืองของประเทศนั้นๆ
ต้องการประโยชน์ด้านสิทธิและสวัสดิการ
คนจีนบางส่วนตั้งใจที่จะอพยพและเปลี่ยนสัญชาติไปเป็นพลเมืองของประเทศที่มีรัฐสวัสดิการดี
เช่น อเมริกา อังกฤษ แคนานา สวีเดน ฯลฯ
เพื่อใช้ประโยชน์จากสิทธิและสวัสดิการเหล่านั้น เช่น
การได้ยกเว้นค่าเล่าเรียนของลูกหลาน สิทธิในการรักษาพยาบาลฟรี การได้รับเงินบำนาญและเงินช่วยเหลือต่างๆ
สิทธิในการครอบครองกรรมสิทธิ์ต่างๆ เป็นต้น
ซึ่งสิทธิประโยชน์บางอย่างชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศนั้นๆ
สามารถเข้าถึงได้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสัญชาติแต่ต้องใช้เงินจำนวนมาก
การเปลี่ยนสัญชาติจึงเป็นทางออกที่คนจีนจำนวนมากเลือกใช้
เพราะคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัวที่ได้มานั้นคุ้มค่าแก่การลงทุน
ต้องการประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ คนจีนจำนวนไม่น้อยที่วางแผนจะออกไปเติบโตนอกประเทศและไม่ได้คิดจะกลับไปพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนอีก
คนกลุ่มนี้ก็สนใจเรื่องการซื้อพาสปอร์ตและการเปลี่ยนสัญชาติเช่นเดียวกัน
ถึงแม้จะต้องลงทุนควักกระเป๋าจ่ายเงินก้อนโตแต่ถ้าได้ประโยชน์คุ้มค่าคนจีนกลุ่มนี้ก็พร้อมที่จะลงทุน
ซึ่งคนจีนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่ออกมาทำธุรกิจการค้าในต่างประเทศ
และต้องการซื้อพาสปอร์ตหรือสัญชาติเพื่อความคล่องตัวในการทำธุรกิจหรือเพื่อผลโยชน์ที่จะได้รับมากขึ้น
เช่น กรรมสิทธิ์ในการครอบครองทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์
ความสะดวกในการจดทะเบียนต่างๆ การลดหย่อนอัตราการเสียภาษี
ความสะดวกในการเดินทางระหว่างประเทศ เป็นต้น ต้องการปิดบังตัวตนที่แท้จริง
มีคนจีนอีกส่วนออกมาเผชิญโลกในต่างประเทศ และไม่คิดกลับไปจีนอีก
คนกลุ่มนี้พร้อมที่จะสละสัญชาติจีนทุกเมื่อ
บางส่วนพยายามที่จะทิ้งสัญชาติจีนเพื่อปิดบังตัวตนที่แท้จริง
เนื่องจากตนเองนั้นมีการกระทำที่ผิดกฎหมาย เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา
หรือมีหมายจับติดตัวที่ไม่สามารถกลับเข้าประเทศจีนได้อีก
จึงมีความพยามที่จะเปลี่ยนสัญชาติเพื่อที่จะได้รอดพ้นจากการติดตามจับกุมตัว
และสามารถดำเนินธุรกิจและธุรกรรมต่างๆ ได้โดยสะดวก
6. จากเหตุการณ์นี้เราเรียนรู้อะไรบ้าง
แนวโน้มคนจีนอพยพออกนอกประเทศยังคงมีอยู่
จากป้ายโฆษณาดังกล่าว ไม่ว่าจะมีการซื้อขายพาสปอร์ตและสัญชาติเกิดขึ้นจริงหรือไม่
สะท้อนให้เห็นว่าการออกมาเติบโตนอกประเทศยังคงเป็นความหวังของคนจีนรุ่นใหม่
การอพยพออกนอกประเทศของคนจีนยังคงมีอยู่และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นตราบใดที่เศรษฐกิจภายในประเทศจีนไม่กระเตื้องขึ้นและการใช้ชีวิตถูกจำกัดจากมาตรการต่างๆ
ของรัฐบาลจีน
การซื้อขายพาสปอร์ตและสัญชาติอาจเป็นเพียงธุรกิจหนึ่งในวงจรสีเทา
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าการซื้อขายพาสปอร์ตและสัญชาติตามป้ายโฆษณานั้นมีจริงหรือไม่
แต่อย่างน้อยก็สะท้อนให้เห็นกลิ่นตุและความไม่ชอบกลที่แฝงอยู่
ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าการซื้อขายพาสปอร์ตนี้อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่ง
หรือขบวนการหนึ่งของวงจรสีเทาของคนจีน
ซึ่งในความเป็นจริงยังมีธุรกิจอีกมากที่คาบเกี่ยวหรือข้องเกี่ยวกับวงจรสีเทาของคนจีนรุ่นใหม่ในไทยและในภูมิภาค นอกจานี้
ถึงแม้ข่าวครั้งนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสัญชาติไทย แต่ก็ชี้ให้เห็นว่าเบื้องลึกเบื้องหลังการซื้อขายสัญชาติไทยนั้นอาจมีอยู่จริง
แต่การซื้อขายอาจไม่ง่ายเท่ากับสัญชาติอื่นๆ
คนจีนที่ซื้อขายสัญชาติไทยได้ต้องเป็นคนที่มีเส้นสายและมีเงินหนา
เพราะผลประโยชน์ที่ได้จากการถือสัญชาติไทยนั้นเป็นประโยชน์ก้อนใหญ่มหาศาล
คนจีนส่วนหนึ่งพร้อมละทิ้งความเป็นจีนเสมอ
ตามกฎหมายจีนพลเมืองจีนไม่สามารถถือสองสัญชาติได้
แต่คนจีนจำนวนมากก็พร้อมที่จะสละสัญชาติจีนแลกกับประโยชน์ที่จะได้รับ
เช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่าความรักชาติในหมู่คนรุ่นใหม่จีนบางส่วนเสื่อมถอยลง ทั้งๆ
ที่รัฐบาลจีนพยายามปลูกฝังความรักชาติให้กับประชาชนตั้งแต่เล็ก
คนจีนออกมาลงทุนแล้วล้มเหลวมีเยอะ การลงทุนในไทยถึงแม้จะไม่ยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จได้ทุกคน ทำให้คนจีนบางส่วนพยายามจะหาลู่ทางให้ได้สิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มความคล่องตัว หรือหาลู่ทางที่จะอพยพไปประเทศอื่นเพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ๆ บางส่วนวิ่งหาตัวช่วยทางลัดเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง ทำให้เกิดการเรียกรับเงินเพื่อวิ่งเต้น
คนจีนที่อยู่นอกประเทศมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องสีเทามาก สาเหตุสำคัญเป็นเพราะวงจรธุรกิจสีเทาได้เงินเยอะและได้เงินเร็ว ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ตั้งตัวได้ ยิ่งในสังคมที่กฎหมายมีช่องโหว่ หรือการบังคับใช้กฎหมายอ่อนแอ ยิ่งเหมือนเป็นการเปิดช่องให้คนจีนเข้าสู่วงจรสีเทาได้ง่ายขึ้น
คนจีนรุ่นใหม่ในไทยขาดจิตสำนึกในการอยู่ร่วมในสังคมไทย การขึ้นป้ายโฆษณาดังกล่าวถือการทำงานหยาบ เป็นเรื่องประเจิดประเจ้อและขาดจิตสำนึกว่าการกระทำดังกล่าวเป็นที่ไม่เหมาะสม เมื่อนึกหาเหตุผลที่สนับสนุนการกระทำก็คิดได้หลายประเด็น อาทิ อาจเป็นเพราะผู้ที่สั่งการขึ้นป้ายรู้ว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้ผิดกฎหมาย ไม่สามารถเอาผิดอะไรได้ หรืออาจชะล่าใจคิดว่าป้ายเป็นภาษาจีน คนไทยคงอ่านไม่เข้าใจ ซึ่งการกระทำเช่นนี้สะท้อนให้เห็นแนวคิดของคนจีนรุ่นใหม่ว่ากำลังดูถูกคนไทยและขาดความเกรงใจต่อสังคมไทย รวมถึงเริ่มทำอะไรที่มีความท้าทาย สุดโต่ง หรือกระทบกระเทือนจิตใจคนไทยมากขึ้น
คนจีนรุ่นใหม่ขาดคุณธรรม อาจเป็นเพราะคนจีนรุ่นใหม่ไม่มีศาสนาไม่มีหลักคำสอนที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ทำให้จิตใจมีความกระด้างและขาดความเอื้ออาทรต่อกัน เมื่อมาไทยหลักคิดจึงมุ่งเน้นแต่การหาผลประโยชน์เป็นหลัก ซึ่งเป็นลักษณะที่ต่างจากคนจีนรุ่นเก่าที่อพยพมาพร้อมแนวคิดความเชื่อต่างๆ เมื่อมาอยู่ไทยคนจีนรุ่นเก่าจึงยังมีการทำกิจกรรมตามความเชื่อ มีการตั้งศาลเจ้า มีมูลนิธิ โรงเรียนและสมาคมที่เป็นสาธารณประโยชน์เกิดขึ้นมากมาย
คนจีนไม่ได้เกรงกลัวกฎหมายไทย เห็นได้จากคนจีนที่กระทำผิดกฎหมายในไทยมีจำนวนมาก
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลักลอบเข้าเมือง ลักลอบประกอบกิจการ การจ่ายเงินใต้โต๊ะต่างๆ
รวมไปถึงอาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากคนจีน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการบังคับใช้กฎหมายไทยอ่อนเกินไป
คนจีนจึงไม่ได้มีความเกรงกลัวและเกรงใจ ที่สำคัญสังคมไทยยังมีจุดอ่อนในเรื่องของการคอร์รัปชันทำให้คนจีนจำนวนมากใช้เงินซื้อและจัดการทุกอย่าง
มิจาชีพจีนหลอกลวงทุกคนไม่เลือกสัญชาติ ไม่ได้หลอกแค่คนไทย คนไทยมักมองว่าคนจีนชอบเข้ามาหลอกลวงคนไทย แต่จริงๆ แล้วคนจีนก็หลอกลวงคนจีนด้วยกันเอง คนจีนที่เป็นมิจฉาชีพหลอกลวงทุกคนที่มีโอกาส ไม่ได้เลือกชาติว่าจะหลอกแต่คนไทยเท่านั้น คนจีนในจีนจำนวนมากก็โดนนายหน้าชาวจีนหลอกลวงมาค้ามนุษย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็มีหลอกลวงคนจีนในประเทศจีน คนจีนแถบกวางสีโดนนายหน้าชาวจีนหลอกลวงไปแต่งงานกับคนเวียดนาม หรือแม้กระทั่งในประเทศที่ห่างไกลออกไปอย่างแถบแอฟริกาคนจีนก็มีการหลอกลวงคนจีนไปทำการค้าการลงทุนเช่นเดียวกัน ดังนั้น มิจฉาชีพชาวจีนมีอยู่ทุกที่ที่มีผลประโยชน์ตอบแทน
คนจีนพยายามทำทุกช่องทางเพื่อประโยชน์ส่วนตน ไม่ว่าจะเป็นการออกมาทำการค้าการลงทุน อพยพออกมาเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ การออกมาทำงานในต่างประเทศ หรือการร่อนเร่แสวงโชคไปเรื่อย ล้วนชี้ให้เห็นถึงการขวนขวายหาชีวิตที่ดีกว่าเมื่อครั้งอยู่ในประเทศจีน และแสดงให้เห็นว่าคนจีนพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ตนเองประสบความสำเร็จ ซึ่งหากมองให้ลึกลงไปการสังคมจีนน่าจะบีบอัดและสร้างความกดดันให้กับคนจีนเป็นอย่างมากถึงขั้นทำให้คนจีนรุ่นใหม่รู้สึกไม่มีหวังกับการอยู่ในประเทศ
ไม่ว่าผ่านไปกี่รุ่นคนจีนก็ยัง “หัวแหลม” อยู่วันยังค่ำ ไม่ว่าคนจีนจะอพยพไปที่ไหนก็มักมีฐานะความเป็นอยู่ดี จำนวนมากถึงขั้นร่ำรวย นอกเหนือจากความพยายามแล้วอีกลักษณะพิเศษหนึ่งที่คนจีนมีคือความ “หัวแหลม” ไปจนถึงขั้น “หัวหมอ” คือมีทั้งกลยุทธ์ ความพยายามในการหาช่องทางเพื่อให้ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น กำไรเพิ่มขึ้น และที่สำคัญคือได้ผลตอบแทนเร็วขึ้น
ไทยมีโอกาสที่จะกลายเป็นประเทศจุดพักและซักฟอกตัวตนของคนจีนสีเทา เพราะการดำเนินการต่างๆ ในไทยสามารถทำได้ง่าย คนจีนอาจเดินทางมาไทยเพื่อทำการซื้อขายสัญชาติ แล้วจึงเดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม หรือไทยอาจกลายเป็นศูนย์กลางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของกลุ่มคนจีนสีเทาในการเข้ามาพำนักอาศัย ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจสีเทาในประเทศรอบข้าง
7. บทสรุป
จากข่าวนี้สะท้อนให้เห็นว่าการอพยพของคนจีนมีพลวัตที่เปลี่ยนไป
การซื้อขายสัญชาติเป็นปรากฎการณ์ใหม่ของคนจีนที่เกิดขึ้นในหลายประเทศรวมถึงไทย
เป้าหมายของการเปลี่ยนสัญชาติส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนจีนต้องการมีชีวิตใหม่ในฐานะพลเมืองของประเทศอื่น
แต่ส่วนใหญ่ยังคงหวังผลในเชิงเศรษฐกิจมากกว่า ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดธุรกิจการซื้อขายพาสปอร์ตและสัญชาติขึ้น
ซึ่งการซื้อขายพาสปอร์ตและสัญชาติที่ปรากฎในข่าวถึงแม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยและยังพิสูจน์หาความผิดหรือสาวไปถึงประเด็นอื่นไม่ได้
แต่ก็มีแนวโน้มแล้วว่าเรื่องนี้ “ไม่ใช่เรื่องธรรมดา”
หากปล่อยให้มีการดำเนินการอย่างเสรี อาจกระทบถึงความมั่นคงของประเทศได้
การที่สังคมช่วยเป็นหูเป็นตาออกมาตีแผ่ป้ายโฆษณาดังกล่าวจึงถือเป็นเรื่องดีที่จะช่วยชะลอและแสดงให้คนจีนที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์เห็นได้ว่าการจะเข้ามาทำอะไรในไทยนั้น
“ไม่ง่าย” อีกต่อไป
อย่างไรก็ดี เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องราวเล็กๆ ที่บังเอิญเป็นข่าวขึ้นมาเท่านั้น แต่ในโลกของคนจีนที่มาดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในไทยนั้นยังมีเรื่องราวที่มีลับลมคมในอีกมากมายที่ไม่ได้ถูกนำมาตีแผ่ให้คนไทยได้รับรู้