
Vol. 40 No. 1 (2019): January – June 2019 | ASIA PARIDARSANA (tci-thaijo.org)
January – June 2019
Vol. 40 No. 1 (2019)
ชื่อวารสาร เอเชียปริทัศน์ ปีที่ 40/1 (2562) อิทธิพลเส้นทางสายไหมต่อเอเชีย
ผู้แต่ง กนกพรรณ อยู่ชา
ปีที่พิมพ์ 2562
เอเชียปริทัศน์ ปีที่ 40/1 (2562) อิทธิพลเส้นทางสายไหมต่อเอเชีย ปีที่ 40 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2562
บทบรรณาธิการ
เส้นทางสายไหมใหม่ศตวรรษที่ 21 นโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (One Belt One Road : OBOR) หรือชื่อที่เรียกเป็นทางการว่า Belt and Road Initiatives (BRI) ที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ใน ค.ศ. 2013 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของโลกทั้งเส้นทางสายไหมทางบก (Silk Road Economic Belt : SREB) และเส้นทางสายไหมทางทะเล (Maritime Silk Road : MSR) เชื่อมต่อกับ 3 ทวีป ได้แก่ เอเชีย แอฟริกา ยุโรป ที่ผ่านมา ความ ก้าวหน้าของโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ของจีนในภูมิภาคต่างๆ เริ่มไม่เป็นไปตาม แผนความร่วมมือที่เคยประกาศไว้ซึ่งได้สะท้อนนัยสําคัญในการขยายอิทธิจีนผ่านทาง เศรษฐกิจในแต่ละภูมิภาค ด้านการค้า การลงทุน เพื่อพัฒนาผลประโยชน์เชิงกลยุทธ์ และเงินกู้พร้อมเงื่อนไข ที่นํามาสู่การทูตกับดักหนี้ (debt trap diplomacy) ของจีน การขาดความโปร่งใส และหลักธรรมาภิบาลที่ชัดเจน ตลอดจนการขาดการมีส่วนร่วม ของประเทศที่ร่วมอยู่ในโครงการนี้ เอเชียปริทัศน์ฉบับนี้ จึงนําเสนอการวิเคราะห์นัย สําคัญของการแผ่อิทธิพลของจีน สิ่งท้าทาย และอุปสรรค จากแต่ละภูมิภาคที่ร่วมใน โครงการเส้นทางสายไหมใหม่ (OBOR)
บทความแรกการแผ่อิทธิพลจีนในอาเซียน โดย ฐณยศ โล่ห์พัฒนานนท์ “ทาง สายไหมใหม่ในอาเซียนกับหนทางสู่ความร่วมมืออย่างยั่งยืน?” นําเสนอมโนทัศน์เกี่ยว กับทางสายไหมใหม่จากมุมมองของอาเซียนเพื่อไขข้อคําถามข้างต้น เริ่มจากเรียบ เรียงข้อมูลและทัศนะทางวิชาการเพื่ออภิปรายปัญหาของโครงการในอาเซียน แล้วใช้ ความเข้าใจปัญหาเชื่อมโยงไปสู่คําตอบ ทั้งนี้ ปัญหาของทางสายไหมใหม่ในอาเซียน สามารถแบ่งได้ถึง 4 ประเด็น ประกอบไปด้วย (1) ความเป็นโครงการที่เกิดจากความ ปรารถนาของจีนเพียงฝ่ายเดียว (2) ความอ่อนด้อยในแง่ของเสียงสนับสนุนจากภาค ประชาชนในอาเซียน (3) อิทธิพลก่อกวนจากภายนอกซึ่งแสดงในทางอ้อม และ (4) ภาพลักษณ์ของโครงการที่ไม่เด่นชัดด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน แต่โครงการนี้ยังคงเดิน หน้าต่อไปโดยปราศจากแรงต่อต้านอย่างจริงจัง ทางสายไหมใหม่ในมุมของอาเซียน
จึงไม่ใช่ทั้งโอกาสที่ต้องคว้าไว้หรือกระทั่งภัยคุกคาม แต่เป็นเพียงทางเลือกชั่วคราว ที่รอการเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีกว่า
บทความการแผ่อิทธิพลจีนในตะวันออกกลาง โดยรุสตั้ม หวันสู “ยุทธศาสตร์ One Belt One Road ของจีนในภูมิภาคตะวันออกกลาง” นําเสนอความสําคัญของ ภูมิภาคตะวันออกกลางต่อยุทธศาสตร์ทางสายไหมใหม่ของจีนในฐานะที่เป็นจุดเชื่อม ของสามทวีปทั้งเส้นทางสายไหม ทางบกและทางทะเล ทําให้จีนจําเป็นต้องดําเนิน นโยบายเชิงรุกเพื่อแสวงหาและรักษาผลประโยชน์ของตนในภูมิภาคตะวันออกกลาง ในระยะหลัง ทั้งการแสดงบทบาททางการทูตผ่านความขัดแย้งในซีเรีย การสร้าง ฐานทัพจีนนอกประเทศครั้งแรกที่ประเทศจิบูติ และตีพิมพ์เอกสารนโยบายจีนต่อ ประเทศอาหรับ
นอกเหนือจากผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจซึ่งมีพลังงานการค้าและการ ลงทุนเป็นเรื่องหลักแล้ว จีนยังหวังว่าการแสวงหาพันธมิตรในภูมิภาคตะวันออกกลาง จะสามารถหยุดยั้งการเผยแพร่แนวคิดก่อการร้ายจากภูมิภาคดังกล่าวเข้าสู่ประเทศจีน ได้จะเห็นได้ว่าจีนกําลังเข้ามาแสดงบทบาทของมหาอํานาจใหม่ที่ท้าทายมหาอํานาจ เดิม ตะวันออกกลางจึงเป็นพื้นที่สําคัญที่จีนจะสามารถปรับสมดุลการเมืองโลก ซึ่งจีน ต้องการโลกที่มีหลายขั้วอํานาจ (multipolar) และโลกที่มีความสมานฉันท์
บทความการแผ่อิทธิพลจีนในตุรกี โดย มาโนชญ์ อารีย์ “ความสัมพันธ์ตุรกี – จีน จากปัญหาอุยกูร์ถึงความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์บนเส้นทางสายไหมใหม่และ ความเกี่ยวพันเชิงสร้างสรรค์” เป็นการศึกษาพัฒนาการของความสัมพันธ์ระหว่าง ตุรกี – จีน ที่มีทั้งโอกาสและความท้าทายในอนาคต ความพยายามในการสร้างความ เป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกัน จุดยืนของตุรกีต่อปัญหาอุยกูร์และการตอบ สนองโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน
บทความการแผ่อิทธิพลจีนในภูมิภาคเอเชียใต้โดย บัณฑิต อารอมัน “การแผ่ อิทธิพลจีนในเอเชียใต้ผ่านเส้นทางสายไหม” เป็นการศึกษาการขยายอิทธิพลของจีน ในเอเชียใต้ผ่านการผลักดันนโยบายโครงการริเริ่มเส้นทางสายไหมใหม่ (New Silk Road) โดยวิเคราะห์ผลจากโครงการที่จีนเข้าไปลงทุน และการตอบรับนโยบายของ จีนจากกลุ่มประเทศในเอเชียใต้ เพื่อเข้าใจแผนพัฒนาเศรษฐกิจของจีนต่อการสร้าง
เครือข่ายระเบียงเศรษฐกิจทั้งทางบกและทางทะเล และศึกษาความสมดุลระหว่าง บทบาทจีนและอินเดียในฐานะประเทศมหาอํานาจทางเศรษฐกิจที่มีอิทธิพลสูงกับ กลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ เพื่อจะช่วยให้เข้าใจถึงสถานการณ์และแนวโน้มใน การแผ่อิทธิพลจีนในเอเชียใต้ อุปสรรคและความท้าทายของจีนต่อเส้นทางสายไหม ใหม่ในมหาสมุทรอินเดีย และการวิเคราะห์ข้อจํากัดและความหวาดระแวงของจีน และอินเดียต่อการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน
การนําเสนอบทความวิจัย นโยบายเส้นทางสายไหม : ความสัมพันธ์ทาง เศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน และแนวโน้มการลงทุนจากญี่ปุ่นในประเทศไทย โดยวนิดา วาดีเจริญ และรังสรรค์ เลิศในสัตย์ ที่เสนอการศึกษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไทยจีนภายใต้นโยบายเส้นทางสายไหม และ ศึกษาแนวโน้มการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น ในไทย นับจากการริเริ่มโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”
สุดท้าย แนะนํา หนังสือ “อาเซียน สิ่งมหัศจรรย์ผู้สร้างสันติภาพ” โดย ศิริพร ดาบเพชร ซึ่งเป็นหนังสือที่แปลจาก The ASEAN Miracle A Catalyst for Peace เขียนโดย Kishore Mahbubani นักการทูตชาวสิงคโปร์ และ Jefery Sng ผู้เชี่ยวชาญ ด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา แปลโดย ดร. ธีระ นุชเปี่ยม และ ดร.ประพิน นุช เปี่ยม จัดพิมพ์โดยสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2561 หนังสือ เล่มนี้ เป็นหนังสือที่ให้องค์ความรู้เกี่ยวกับอาเซียนและประเทศสมาชิกอาเซียนที่ ครอบคลุมและลึกซึ้งในหลากหลายประเด็นตั้งแต่ที่มาของวัฒนธรรมของชาติต่างๆ ประวัติศาสตร์อาเซียนในช่วงเวลาต่างๆ และนําเสนอมุมมองที่น่าสนใจของอาเซียน ในฐานะองค์กรที่ประสบความสําเร็จทางการเมือง การสร้างสันติภาพท่ามกลางความ หลากหลายทางวัฒนธรรมมากที่สุดภูมิภาคหนึ่งของโลก จึงเป็นหนังสือที่เหมาะแก่ นักวิชาการและนักเรียนนักศึกษาอ่านเพื่อเพิ่มพูนความรู้และมุมมองต่างๆ รวมทั้ง เหมาะกับบุคคลทั่วไปที่สนใจด้านสังคมศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และความสัมพันธ์ ระหว่างประเทศ
กนกพรรณ อยู่ชา
บรรณาธิการประจําฉบับ