สื่อสิ่งพิมพ์

หน้าแรก / สื่อสิ่งพิมพ์

Nyida Parik: การเต้นต้อนรับขบวนเจ้าสาวของชาวกาโล

โดย ดร.ลักษณ์นัยน์ ทรงเสี่ยงไชย


ชายชาวกาโลกำลังฝึกซ้อมการแสดง Nyida Parik ที่ลานหญ้าของหมู่บ้าน ภาพถ่ายโดย ลักษณ์นัยน์ ทรงเสี่ยงไชย

เข็มนาฬิกาแสดงเวลาตีห้าเศษ แต่แสงอาทิตย์ได้ส่องเหนือหุบเขาบาซาร์ (Basar) จนสว่างไสวแล้ว เช้าวันนี้ผู้เขียนได้รับการชักชวนให้มาชมการซ้อมเต้น Nyida Parik ที่จะแสดงในเทศกาลประจำปี สถานที่ซ้อมการแสดงคือลานหญ้าอเนกประสงค์ของชุมชน บรรยากาศจึงครื้นเครงด้วยเสียงแทรกจากกิจกรรมอื่น ๆ รวมทั้งการเดินตัดผ่านไปมาของสัตว์นานาชนิดที่กำลังออกหากิน ห้องซ้อมเต้นขนาดใหญ่แห่งนี้ช่างมีชีวิตชีวาและโอบล้อมด้วยธรรมชาติจนทำให้การตื่นเช้ากลายเป็นสิ่งที่คุ้มค่าเสียเหลือเกิน

 พื้นที่เขตบาซาร์ตั้งอยู่ทางตอนกลางของรัฐอรุณาจัลประเทศ “ดินแดนแห่งแสงพระอาทิตย์แรก” ของประเทศอินเดีย กลุ่มคนที่อาศัยในดินแดนแถบนี้คือ ชาวกาโล(Galo tribe) ชนพื้นเมืองที่มีขนาดใหญ่กลุ่มหนึ่งในบรรดา 26 กลุ่มชาติพันธุ์ของรัฐ หากท่านผู้อ่านได้ลองศึกษาแผนที่ของประเทศอินเดียจะพบว่ารัฐอรุณาจัลประเทศนี้มีอาณาเขตแนบชิดกับประเทศจีน ภูฏาน และพม่า ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่ารูปลักษณ์ภายนอกและวัฒนธรรมการดำเนินชีวิตของผู้คนแถบนี้จะมีความละม้ายคล้ายคลึงกับชาวจีน พม่าและไทยภูเขาเสียมากกว่าวัฒนธรรมอินเดียในแบบที่คนทั่วไปรู้จัก นับเป็นโชคดีของผู้เขียนที่หลายปีมานี้ได้มีโอกาสแวะเวียนมาเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวกาโลอยู่บ่อยครั้ง ทำให้สัมผัสได้ถึงความผูกพันของพวกเขาที่ยังคงแน่นแฟ้นเสมือนครอบครัวเดียวกันอยู่ ส่วนหนึ่งอาจเพราะพวกเขาล้วนเชื่อว่าสมาชิกทุกคนที่นี่สืบทอดเชื้อสายมาจากอะโบตานี(Abo Tani) บรรพบุรุษของมนุษย์(father of mankind) ข้อสังเกตได้ง่ายประการหนึ่งก็คือคนส่วนใหญ่ในแถบนี้ล้วนแล้วแต่ใช้นามสกุล “Basar” และ “Bam” แทบทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตามความเจริญและเทคโนโลยีสมัยใหม่ส่งผลให้คนในบาซาร์ห่างไกลวิถีชีวิตแบบเดิมออกไปทีละน้อย รวมทั้งการใช้ภาษากาโลที่นับวันจะมีคนรุ่นใหม่พูดได้น้อยลง รัฐบาลและผู้ใหญ่ในชุมชนจึงผลักดันให้มีการจัดเทศกาล Basar Confluence ขึ้นมา โดยหวังว่ากิจกรรมในงานจะสามารถเป็นสื่อกลางในการรวมตัวและการร่วมแรงกายแรงใจของชาวกาโลทุกเพศทุกวัยเพื่อสืบสานประเพณีอันแสดงถึงอัตลักษณ์ของชาติพันธุ์ตนเองเอาไว้ ทั้งยังเป็นโอกาสในการเผยแพร่วัฒนธรรมให้บุคคลภายนอกได้สัมผัส รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย การแสดงพื้นบ้านที่ชาวกาโลกำลังฝึกซ้อมนี้จึงเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว

Nyida Parik เป็นการเต้นรำพื้นบ้านที่แสดงในงานแต่งงาน การเต้นจะใช้ชายล้วนจากฝ่ายเจ้าบ่าวเพื่อการต้อนรับและแสดงความแข็งแกร่งในการปกป้องวิญญาณชั่วร้ายให้กับขบวนฝ่ายเจ้าสาวให้เดินทางไปสู่เรือนหออย่างปลอดภัย การเต้นรำนี้เชื่อว่าเป็นพิธีกรรมในงานแต่งงานของอะโบตานีกับลูกสาวของเทพพระอาทิตย์ (Donyi Mumdi) เช่นเดียวกัน ดังนั้นชาวกาโลที่เชื่อว่าตนเองเป็นลูกหลานของอะโบตานีจึงได้ถือเอาการเต้นนี้เป็นประเพณีหนึ่งในงานแต่งงานสืบมา

ผู้เขียนได้ชมการเต้น Nyida Parik ในงานแต่งงานของชาวกาโลเมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านี้ ในวันนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์กว่าสิบคนจะมายืนตั้งแถวโดยมีระยะห่างประมาณสองกิโลเมตรจากเรือนหอ เมื่อขบวนเจ้าสาวเดินเท้าใกล้เข้ามาจึงเริ่มสร้างจังหวะด้วยการใช้เหง้าไม้ตีกระทบกับถาดทองเหลือง กลุ่มผู้เต้นจะเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆโดยเน้นไปที่การกระโดด พงกศีรษะ และแปรขบวนแถวหลายทิศทาง พร้อม ๆ กับการตีถาดสร้างจังหวะ แม้ว่าการแสดงจะไม่ได้มีรูปแบบที่ซับซ้อนแต่ก็มีความพร้อมเพรียงกันตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปลายทางที่เจ้าบ่าวรออยู่ ดูเผินๆการเต้นนำขบวนของชายกลุ่มนี้ให้ความรู้สึกคล้ายๆกับการแห่ขันหมากแบบไทยอยู่เหมือนกันความพร้อมเพรียงในการสร้างจังหวะนี้ทำให้เสียงเหง้าไม้กระทบถาดธรรมดาๆนี้ดูเหมือนมีมนต์ขลัง   การเต้นพื้นเมืองของชายชาวกาโลนี้ยังแสดงที่มีความหมายโดยนัยว่าฝ่ายเจ้าบ่าวนั้นแข็งแกร่งเสมือนอะโบตานีที่พร้อมที่จะปกป้องเจ้าสาวผู้ซึ่งเป็นบุตรีของเทพพระอาทิตย์ได้

องค์ประกอบอันโดดเด่นของการเต้น Nyida Parik คงหนีไม่พ้นเครื่องแต่งกาย เหล่าผู้แสดงจะคลุมตัวด้วยผ้าทอมือพื้นเมืองโทนสีเข้มทรงตรงแบบทูนิค(tunic) มีความยาวปิดลงมาถึงสะโพก ในพิธีการแต่งงานผู้เต้นอาจไม่ได้สวมเสื้อผ้าสีเดียวกันและใช้เพียงผ้าสีขาวพันช่วงล่างคล้ายกางเกงใน แต่การเต้นที่จัดแสดงในเทศกาลจะนิยมให้ผู้แสดงสวมเสื้อแขนยาวกับกางเกงขาสั้นสีขาวไว้ด้านในเพื่อความสวยงาม เครื่องประดับศีรษะคือหมวกสานพื้นเมือง มีลักษณะเป็นทรงรีครอบเฉพาะศีรษะ ไม่มีปีกหมวก ด้านบนหมวกติดจงอยปากของนกเงือก(hornbill) ตกแต่งด้วยขนนกและขนจามรี(yak) หมวกที่ตกแต่งอย่างสะดุดตานี้นอกจากจะแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของถิ่นอาศัยแล้ว ยังแสดงถึงความสามารถในการล่าสัตว์ของเจ้าของหมวกใบนั้น หมวกแต่ละใบจึงถือเป็นสมบัติส่วนตัวของฝ่ายชายที่สามารถส่งต่อให้กับคนรุ่นถัดไปของครอบครัว

หมวกพื้นเมือง ถาดทองเหลืองและเหง้าไม้ที่ใช้ในการแสดง ภาพถ่ายโดย ลักษณ์นัยน์ ทรงเสี่ยงไชย

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คืออุปกรณ์สร้างเสียงประกอบจังหวะการเต้นที่มีเพียงถาดทองเหลืองและเหง้าไม้ ผู้เต้นจะเป็นผู้กำกับจังหวะกันเองด้วยการใช้หน่อไม้ตีตรงกลางถาดให้เกิดเสียงกังวาลคล้ายกับการตีระฆัง ขนาดของถาดมีความเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน บ่งบอกฐานะของผู้แสดงแต่ละคน เพราะถาดทองเหลืองถือว่าเป็นของมีราคา ในขณะเดียวกันยิ่งถาดใหญ่ก็ยิ่งมีน้ำหนักมาก ผู้เต้นแต่ละคนจึงต้องมองหาถาดที่เหมาะสมกับความแข็งแรงของตนเองที่จะสามารถถือถาดนี้ด้วยมือข้างเดียวตั้งแต่ต้นไปจนจบการแสดง ขนาดของถาดยังสะท้อนถึงความทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับงานแต่งงานครั้งนั้น ดังนั้นเมื่อเสร็จสิ้นพิธีกรรม เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะมอบเนื้อMithun (สัตว์ท้องถิ่นที่มีลักษณะคล้ายกระทิง) ที่ถูกฆ่าในพิธีให้ผู้แสดงกลับไปแทนคำขอบคุณ ซึ่งสัดส่วนของเนื้อที่จะมอบให้ก็เป็นไปตามขนาดของถาดทองเหลืองที่ผู้แสดงแต่ละคนถือมา

การแสดง Nyida Parik ในเทศกาล Basar Confluence 2018  ภาพถ่ายโดย Parnashree Devi

การเต้น Nyida Parik ยังคงเป็นส่วนหนึ่งในงานแต่งงานของชาวกาโลโดยเฉพาะคู่บ่าวสาวที่ยังคงนับถือโดนีโปโล(Donyi-Polo) ศาสนาพื้นเมืองของชาวอรุณาจัล ซึ่งแน่นอนว่าโอกาสที่จะได้เห็นการแสดงประเภทนี้ก็ค่อยๆลดน้อยลงไปทุกทีๆ การฝึกซ้อมการแสดงที่ผู้เขียนกำลังชื่นชมอยู่ในวันนี้แม้จะไม่ได้มีขึ้นเพื่อนำไปใช้ในงานแต่งงานจริงๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นว่าการเต้นพื้นเมืองยังคงถูกใช้เป็นกิจกรรมทางสังคมที่รวบรวมผู้คนเข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังมีบทบาทให้ชายชาวกาโลได้ทำหน้าที่สืบสานศิลปะการแสดงของชนเผ่าตนเองสืบต่อไป

หากผู้อ่านท่านใดอยากชมการเต้น Nyida Parik และการแสดงพื้นเมืองอื่น ๆ รวมถึงการเรียนรู้วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวกาโล ขอแนะนำให้ท่านวางแผนการเดินทางไปที่หุบเขาบาซาร์ในช่วงเทศกาล Basar Confluence ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนธันวาคมของทุกปี ที่ Basar, Arunachal Pradesh โดยสามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ www.basarconfluence.org


บทความล่าสุด

เมื่อ “ไทย” กลายเป็น “หมากสำคัญ” ของอาชญากรรมจีนเทาในภูมิภาค
เมื่อ “ไทย” กลายเป็น “หมากสำคัญ” ของอาชญากรรมจีนเทาในภูมิภาค

กุลนรี นุกิจรังสรรค์ ศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากเหตุการณ์ที่นายหวังซิง (หรือชื่อเล่นว่าซิงซิง) นักแสดงชาวจีนถูกหลอกให้มาแคสงานแสดงที่ประเทศไทย แต่สุดท้ายกลับถูกพาไปที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และถูกพาข้ามพรมแดนไปยังประเทศเมียนมาแล้วหายสาบสูญไป กระทั่งแฟนสาวของซิงซิงได

กุลนรี นุกิจรังสรรค์
2568
กระแสเอเชีย
“เซี่ยงไฮ้” จุดหมายใหม่ของคนไทยติดแกลม
“เซี่ยงไฮ้” จุดหมายใหม่ของคนไทยติดแกลม

กุลนรี นุกิจรังสรรค์ นักวิจัยศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ การยกเว้นวีซ่าระหว่างกันของไทยและจีนตั้งแต่เดือนมีนาคม 2024 ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวประเทศจีนนั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างคาดไม่ถึง โดยในครึ่งปีแรกของปี 2024 จำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่ไปเที่ยวจีนเติบโตขึ้นถึง

กุลนรี นุกิจรังสรรค์
2568
กระแสเอเชีย
“ผวน” และ “ฝ่าน”(反)ลูกเล่นทางภาษาของไทยและจีน
“ผวน” และ “ฝ่าน”(反)ลูกเล่นทางภาษาของไทยและจีน

ณัฐเสกข์ นาคสิทธิ์ ศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีลูกเล่นหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือการเล่น “คำผวน” ซึ่งเป็นการเล่นคำโดยการสลับตำแหน่งของเสียงพยัญชนะต้น กับเสียงสระและตัวสะกดและวรรณยุกต์ของคำจำนวน 2 พยางค์ขึ้นไป เพื่อให้เกิดคำใหม่ที่อาจจะมีความหมายหรือไม่มีควาหมายก็ได้

ณัฐเสกข์ นาคสิทธิ์
2568
กระแสเอเชีย
มองการเข้ามาของคนจีนผ่านข่าว “การซื้อพาสปอร์ต” ที่ห้วยขวาง
มองการเข้ามาของคนจีนผ่านข่าว “การซื้อพาสปอร์ต” ที่ห้วยขวาง

กุลนรี นุกิจรังสรรค์ ศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2024 ที่ผ่านมา มีการเผยแพร่ภาพป้ายโฆษณาภาษาจีนที่ติดตั้งกลางสี่แยกห้วยขวางบนโลกอินเตอร์เน็ต จนกลายเป็นประเด็นระดับชาติที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์และหลายฝ่ายให้ความสนใจ กระทั่งสำนักงานเขตห้วยขวางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีกา

กุลนรี นุกิจรังสรรค์
2568
กระแสเอเชีย
น้องหมีเนย Butterbear กับแฟนด้อมชาวไทยและจีน
น้องหมีเนย Butterbear กับแฟนด้อมชาวไทยและจีน

กุลนรี นุกิจรังสรรค์ ศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ หลายคนคงรู้จักน้อง “หมีเนย” หรือ “น้องเนย” มาสคอตหมีสีน้ำตาลอายุ 3 ขวบ หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูจากร้าน Butter Bear Cafe แบรนด์ขนมในเครือของร้าน Coffee Beans by Dao ที่ตั้งอยู่ในห้าง Emsphere ชั้น G ซึ่งได้รับความชื่นชอบและได้รับการตอบรับเป็

กุลนรี นุกิจรังสรรค์
2567
กระแสเอเชีย